📣 รู้หรือไม่❗Hardness คืออะไร? ค่าเท่าไรถึงเหมาะสม ✔✔

ค่า Hardness ในมาตรฐาน JIS A (Japanese Industrial Standards A) ใช้สำหรับวัดความแข็งของวัสดุที่มีความยืดหยุ่น เช่น ยาง โฟม และวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ โดยทั่วไปใช้หน่วยวัดที่เรียกว่า Shore Hardness ซึ่งมีหลายระดับ เช่น Shore A สำหรับวัสดุที่อ่อนและยืดหยุ่น และ Shore D สำหรับวัสดุที่แข็งกว่า

เครื่องมือที่ใช้วัดค่า Hardness ของวัสดุในหน่วย JIS A คือ Durometer หรือ Shore Durometer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการวัดความแข็งของวัสดุที่ยืดหยุ่น เช่น ยางและพลาสติก โดยเครื่องมือ Durometer นี้มีหลายประเภท แต่สำหรับมาตรฐาน JIS A นั้นจะใช้ Shore A Durometer เป็นหลัก

หลักกการทำงานของ Shore A Durometer

1. หัววัด (Indenter): มีรูปทรงป้านที่ออกแบบมาให้กดลงบนผิววัสดุ โดยจะวัดความลึกที่หัววัดสามารถจมลงไปในวัสดุ ซึ่งใช้ในการคำนวณค่า Hardness
2. หน้าปัดแสดงค่า (Dial): แสดงค่าความแข็งของวัสดุในช่วง 0-100 โดยที่ 0 คืออ่อนที่สุดและ 100 คือแข็งที่สุด
3. การกดลงบนผิววัสดุ: เมื่อกด Durometer ลงบนวัสดุ หัววัดจะจมลงไป และเครื่องมือจะบันทึกค่าความต้านทานที่เกิดขึ้น

 🅾️ ค่าความแข็ง หรือ hardness เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการตัดสินใจเลือก vacuum pad ที่เหมาะสมในการใช้งานของคุณ โดยค่าความแข็งมาตรฐานที่ใช้ในงานหยิบจับชิ้นงานโดยทั่วไป คือ 60 JIS A

นอกจากนี้ ความแข็งของ vacuum pad ยังเป็นตัวกำหนดอีก 2 คุณสมบัติสำคัญด้วย นั่นคือ👇 👇

1) ความยาก-ง่ายในการหยิบจับชิ้นงาน:

➡️ hardness มากกว่า > 60 JIS A ส่วนใหญ่จะเหมาะกับการหยิบชิ้นงานที่ถูกออกแบบมาพิเศษ

➡️ hardness น้อยกว่า < 60 JIS A ส่วนใหญ่จะเหมาะกับการหยิบชิ้นงานที่มีความบอบบางหรือมีความยืดหยุ่นสูง

2. อายุการใช้ของ vacuum pad: ถ้ามี hardness มากขึ้น จะสามารถต้านทานหรือทนต่อการเสียรูปซึ่งเกิดจากแรงกด ความต้านทานต่อการเสียดสี การกลึงและขีดข่วนได้ดีกว่า